โรคตับ ถือเป็นโรคที่เกิดง่าย แต่หายยาก อีกทั้งไม่ว่าจะเป็น ไขมันพอกตับ ตับแข็ง ไวรัสตับอักเสบ ล้วนแต่มีจุดหมายออันตรายยู่ที่เดียวกันคือ โรคตับแข็งและมะเร็งตับ นั่นเอง ซึ่งบรรดาโรคตับเหล่านี้ล้วนแต่เป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาการออกมาให้เห็น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสัญญาณใดๆบอกล่วงหน้าเลย โดยสัญญาณที่กำลังบอกว่าโรคตับกำลังตามหาคุณมีดังนี้
13 สัญญาณโรคตับ ที่ควรระวัง
- อ่อนเพลีย ง่วงนอนตลอด
- เหนื่อยง่าย
- ปวดท้องชายโครงขวา
- คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ
- ท้องมาน เท้าบวม
- ตัวตาเหลือง
- ท้องอืด อาหารไม่ย่อย
- ปัสสาวะเข้ม อุจจาระซีดเซียว
- ป่วยง่าย
- น้ำตาลในเลือดสูง
- ผิวแห้ง คันผิวหนัง
- ตอนมีแผล เลือดออกง่ายกว่าปกติ
โรคตับ ที่พบได้มาก
1.ไขมันพอกตับ
ไขมันพอกตับ คือ คือโรคตับที่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายที่สุด เพียงแค่พฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกหลัก ก็ก่อให้เกิดโรคได้แล้ว ซึ่งคนไทยกำลังป่วยด้วยโรคไขมันพอกตับมากกว่า 40% แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้ตัวเลย โดยไขมันพอกตับ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุดังนี้
- ได้รับสารอาหารมากเกินความจำเป็นของร่างกายติดต่อกันนาน ทำให้ตับต้องแปลงสารอาหารส่วนเกินเป็นพลังงานสำรองในรูปของไขมัน และจัดเก็บที่ตับ หากไขมันเหล่านี้สะสมเข้าไปมากๆ จะก่อให้เกดโรคไขมันพอกตับ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของตับโดยตรง
- ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย ตับจ้องกำจัดมันออกไป ซึ่งจะเกิดกรดไขมันขึ้น ซึ่งกรดไขมันจะรวมกันกลายเป็นไขมันและพอกพูนที่ตับ เกิดเป็นไขมันพอกตับตามมาได้เช่นกัน
- เป็นเบาหวานไม่ควบคุมน้ำตาล หากว่าผู้ป่วยเบาหวานมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินความต้องการของร่างกายบ่อยๆ น้ำตาลส่วนเกินนี้จะถูกแปลงค่าให้เป็นไขมันและสะสมอยู่บริเวณตับ ยิ่งน้ำตาลสูงบ่อย ยิ่งมีโอกาสเป็นไขมันพอกตับมากเท่านั้น
2.ตับอักเสบ ที่ไม่ได้เกิดจากไวรัส
- ตับอักเสบ คือ อาการอักเสบที่เกิดขึ้นบริเวณเซลล์ตับ ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของตับเช่นกัน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานต่ำลง กระทบระบบอื่นๆ อวัยวะอื่นๆในร่างกาย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- สืบเนื่องจากไขมันพอกตับ โดยตับที่ถูกไขมันเข้าไปเบียดแทรกเซลล์ตับในปริมาณมาก จะเกิดการอักเสบขึ้น และตับจำเป็นต้องทำลายเซลล์อักเสบนั้นทิ้งไป จากนั้นจะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้ตับเกิดรอยแผลเป็นขึ้นมาได้
- การดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงแต่ทำให้เป็นไขมันพอกตับเท่านั้น แต่มันยังทำให้ตับต้องทำงานหนัก และเกิดการอักเสบขึ้นมาโดยตรง สร้างผลกระทบไปทั่วทั้งร่างกาย
- ได้รับยาสารบางอย่างเข้าไป ก็มีโอกาสที่จะทำให้โรคตับ อย่างตับอักเสบเกิดขึ้นมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาประเภทยาแก้ปวด ยาพาราที่เรากินกันเป็นประจำนั่นเอง รวมไปถึงสารพิษบางประเภทที่เป็นอันตรายต่อตับด้วย
3.ไวรัสตับอักเสบ
ไวรัสตับอีกเสบ คือ คือโรคติดต่อที่ไวรัสตับอักเสบมันแฝงตัวแอบเข้าไปทำลายเซลล์ตับอย่างต่อเนื่อง สร้างผลกระทบทั้งต่อตับและแผ่ขยายผลไปยังระบบอื่นๆ ทั่วร่างกาย ทั้งการกำจัดสารพิษ การย่อยอาหาร และอวัยวะอย่างสมอง และไต อาจได้รับผลกระทบไปด้วย
ซึ่งเชื้อไวรัสตับอักเสบที่พบมากในบ้านเราคือ ไวรัสตับอักเสบบี เพราะมีคนเป็นพาหะนำโรคถึง ประมาณ 5ล้านคน โดยไวรัสตับอักเสบมีดังนี้
- ไวรัสตับอักเสบเอ จะติดต่อกันผ่านทางการดื่มน้ำ กินอาหารที่ปนเปื้อนไวรัสชนิดเอซึ่งอาจจะมาจากอุจจาระของพาหะ
- ไวรัสตับอักเสบบีและซี จะติดต่อกันผ่านทางเลือด แม่สู่ลูก เพศสัมพันธ์ และน้ำเหลือง เท่านั้น ไม่ติดต่อทางการกิน
- ไวรัสตับอักเสบดี เป็นไวรัสที่เรียกได้ว่ารุนแรงที่สุด แต่พบได้น้อยมาก และจะติดได้ในเฉพาะคนที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่แล้วเท่านั้น
- ไวรัสตับอักเสบอี ไม่ค่อยมีให้พบ แต่ก็สามารถติดต่อได้ทางการดื่มน้ำ กินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคไวรัสอยู่
4.ตับแข็ง และมะเร็งตับ
โรคตับ ทั้งไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ไวรัสตับอักเสบ มักไม่ค่อยปรากฏอาการออกมาให้เห็น จึงทำให้คนมักไม่รู้ตัว และละเลยที่จะดูแล จนโรคมันดำเนินต่อไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที ตับก็เสียหายเกินคาดเดา สูญเสียหน้าที่ กลายเป็นตับแข็ง หรือร้ายแรงถึงขั้นมะเร็งตับ ที่ไม่สามารถรักษาได้แล้ว ส่งผลเสียไปทั่วร่างกาย ซึ่งจากสถิติบอกว่ามะเร็งตับ คือมะเร็งที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุด
โรคตับ สร้างความเสียหายต่อร่างกาย
- การกำจัดสารพิษต่ำลง ทำให้สารพิษเอ่อล้นไหลเวียนไปสร้างความเสียหายให้อวัยวะอื่นๆ ทั้งสมอง ไต และส่วนอื่นๆ อีกมากมาย
- ประสิทธิภาพการสร้างน้ำดีต่ำ ซึ่งน้ำดีคือกุญแจสำคัญต่อระบบย่อยอาหาร หากน้ำดีผลิตได้น้อย ทำให้การย่อยอาหารเป็นไปด้วยความยากลำบาก เกิดความเสียหายต่อระบบย่อยอาหารขึ้นมาได้
- ร่างกายขาดพลังงานหลัก นอกจากการย่อยอาหารจะไม่สมบูรณ์ จนร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอแล้ว ความสามารถในการแปลงสารอาหารที่ได้จากการย่อย ให้เป็นน้ำตาลกลูโคสเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างากยก็ทำได้น้อย ส่งผลกระทบไปทั่วทุกระบบในร่างกาย
- โรคตับทำให้ขาดพลังงานสำรอง เมื่อตับไม่สามารถเก็บพลังงานสำรองไว้ได้ ทั้งจากไขมันพอกตับจนเต็มแล้ว หรือาจเกิดจากการอักเสบ ทำให้สารอาหารที่ร่างกายเหลือใช้ คั่งค้างอยู่ในเลือดมากกว่าที่ควรจะเป็น บางคนเกิดอาการน้ำตาลในเลือดสูง เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานตามมาอีกด้วย
- ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำลง เพราะตับทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีนบางชนิดที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต และหนึ่งในโปรตีนเหล่านั้นมีส่วนสำคัญกับภูมิต้านทานของร่างกาย หากโรคตับขยับเข้ามาแล้วล่ะก็ ภูมิต้านทานก็ต่ำตามไปด้วย
การบรรเทาและรักษา โรคตับ
ก่อนที่โรคตับแสดงความอำมหิตออกมาด้วยตับแข็งและมะเร็งตับ เราควรที่จะรักษาโรคจากสาเหตุ
- หากโรคตับเกิดจากแอลกอฮอล์ ก็เพียงแค่ลดละเลิกแอลกอฮอล์ เพราะตับก็ไม่แย่ไปกว่าเก่า และยังมีโอกาสที่จะฟื้นฟูขึ่นได้อีกด้วย
- หากโรคตับเกิดจากการกินมาก ก็เพียงแค่ควบคุมอาหาร ลดปริมาณการกิน หลีกเลี่ยงแป้ง น้ำตาลและไขมัน และออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคู่ไปด้วย ก็ช่วยให้สุขภาพร่างกาย และสุขภาพตับดีขึ้นได้ด้วย
- หากเกิดจากการได้รับไวรัสตับอักเสบ ก็จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษา หรือสามารถฉีดวัคซีนป้องกันก่อนที่โรคจะเกิดได้
- หากเกิดจากเบาหวาน ก็จำเป็นต้องควยคุมระดับน้ำตาลในเลือด และพยายามออกกำลังกายเป็นประจำ ควบคุมอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันพอกตับ และลดน้ำตาลในเลือดไปในตัว
Artichoke ช่วยฟื้นฟูจาก โรคตับ
Artichoke คือ พืชที่ได้รับการยกย่องว่า มีความสามารถในการบำรุงตับจากโรคตับในระดับสูง เพราะมีความสามารถในการบำรุงตับอย่างรอบด้าน ทั้งการลดไขมันพอกตับ และลดและป้องกันการอักเสบของตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยมีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแพทย์แห่งชาติโดเนตส์ ประเทศยูเครน ได้ศึกษาและค้นพบว่า หากว่ากินอาร์ติโชค (Artichoke) ติดต่อกันเป็นประจำ จะช่วยลดไขมันที่พอกอยู่ในตับได้
และงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Poznan University of Medical Sciences ในประเทศโปแลนด์ ได้ศึกษาและยืนยันว่าอาร์ติโชคสามารถช่วยลดการอักเสบของตับจากพฤติกรรมต่างๆ ได้ เช่น จากไขมันพอกตับ จากการกินยา จากแอลกอฮอล์ เป็นต้น และยังช่วยป้องกันการอักเสบที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกเหมือนกัน
LIVPRO อาหารเสริมบำรุงตับ
Livpro เป็นผลิตภัณฑ์เสริม อาหารบำรุงตับ ควบคุมการผลิตโดย Sergis ประเทศไทย มีราชาแห่งการบำรุงตับอย่าง Artichoke เป็นส่วนผสมหลัก และประกอบไปด้วยสารอาหารบำรุงตับมากมายไม่ว่าจะเป็น Dandelion Root, ชาเขียว, Turmeric (ขมิ้นชัน), กลูต้าไธโอน จากอเมริกา มีสรรพคุณดังนี้
- ลดอาการไขมันพอกตับ
- ลดการอักเสบของตับ
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด และไขมันในเลือด
- เสริมสร้างการผลิตน้ำดีของตับ
- ปกป้องตับจากการถูกอนุมูลอิสระทำร้าย
- เสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของตับ
- เสริมสร้างประสิทธิภาพระบบย่อยอาหาร
- ฟื้นฟูตับให้สมบูรณ์
หากสนใจผลิตภัณฑ์อาหารเสริม LIVPRO สำหรับฟื้นฟูดูแลตับ คลิกเลย